ดาวน์โหลดฟรี ตัวอย่างไฟล์โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง ประเภทสิ่งประดิษฐ์ 18 เรื่อง โดยเพจการศึกษาไทย

ดาวน์โหลดฟรี ตัวอย่างไฟล์โครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภททดลอง ประเภทสิ่งประดิษฐ์ 18 เรื่อง โดยเพจการศึกษาไทย

โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องที่ 1 การศึกษาผลของแสงต่อการเจริญเติบโตของพืช
การศึกษาผลกระทบของแสงต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นโครงงานพื้นฐานที่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง โครงงานนี้สามารถทำได้โดยใช้ต้นถั่วงอกหรือผักกาดหอม แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ กลุ่มที่ได้รับแสงแดดบางส่วน กลุ่มที่อยู่ในที่ร่ม และกลุ่มที่อยู่ในที่มืด

นักเรียนจะต้องสังเกตและบันทึกความสูง จำนวนใบ สีของใบ และความแข็งแรงของต้นพืชเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์และเปรียบเทียบ ผลที่ได้จะแสดงให้เห็นว่าแสงมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชอย่างไร และทำไมพืชที่ขาดแสงจึงมีสีเหลืองและอ่อนแอ

โครงงานนี้จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนผ่านการทดลองที่ง่าย นอกจากนี้ยังฝึกให้นักเรียนมีความอดทนในการสังเกตและบันทึกข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของนักวิทยาศาสตร์

โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องที่ 2 การทำสบู่จากวัสดุธรรมชาติ
การทำสบู่จากวัสดุธรรมชาติเป็นโครงงานที่ผสมผสานระหว่างเคมีและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน นักเรียนสามารถใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม หรือไขสัตว์ที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น มาผสมกับด่างโซเดียมไฮดรอกไซด์เพื่อทำปฏิกิริยาสบู่นิฟิเคชัน

กระบวนการทำสบู่จะต้องระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องใช้สารเคมีที่มีความเป็นด่างสูง นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมีระหว่างกรดไขมันและด่าง การคำนวณอัตราส่วนที่เหมาะสม และการทดสอบคุณภาพของสบู่ที่ได้

โครงงานนี้ยังสามารถขยายไปสู่การศึกษาเปรียบเทียบคุณสมบัติของสบู่ที่ทำจากน้ำมันชนิดต่างๆ การเติมสารสกัดจากพืชสมุนไพรเพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ และการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อเทียบกับสบู่ในท้องตลาด

โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องที่ 3 การศึกษาคุณภาพของน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ
การศึกษาคุณภาพน้ำเป็นโครงงานที่มีความสำคัญต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม นักเรียนสามารถเก็บตัวอย่างน้ำจากแหล่งต่างๆ เช่น น้ำประปา น้ำบ่อ น้ำแม่น้ำ และน้ำในคู คลอง มาทำการทดสอบคุณภาพด้วยวิธีการง่ายๆ

การทดสอบที่สามารถทำได้ ได้แก่ การวัดค่า pH ด้วยกระดาษลิตมัส การทดสอบความใส การนับจำนวนแบคทีเรีย การตรวจหาสารโลหะหนัก และการทดสอบออกซิเจนละลายน้ำ นักเรียนจะต้องเรียนรู้วิธีการเก็บตัวอย่างที่ถูกต้อง การใช้เครื่องมือทดสอบ และการแปลผลการทดสอบ

ผลการศึกษาจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจปัญหาการปนเปื้อนของน้ำ ความสำคัญของการบำบัดน้ำเสีย และแนวทางการอนุรักษ์แหล่งน้ำ โครงงานนี้สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาน้ำเสียในชุมชนได้อีกด้วย

โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องที่ 4 การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการทำอาหาร
การสร้างเตาพลังงานแสงอาทิตย์เป็นโครงงานที่น่าสนใจที่ผสมผสานหลักการฟิสิกส์และการประยุกต์ใช้พลังงานทดแทน นักเรียนสามารถสร้างเตาแสงอาทิตย์ได้หลายแบบ เช่น แบบกล่อง แบบพาราโบลา หรือแบบแผงสะท้อนแสง

การสร้างเตาแสงอาทิตย์แบบกล่องใช้วัสดุง่ายๆ เช่น กล่องกระดาษ กระจก กระดาษอลูมิเนียมฟอยล์ และพลาสติกใส หลักการคือการใช้กระจกสะท้อนแสงแดดเข้าไปในกล่องที่ปิดมิดชิด ความร้อนจะถูกกักเก็บไว้ภายในกล่องและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถใช้ในการทำอาหารได้

นักเรียนจะได้ทดลองหาตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเตา การปรับมุมกระจกสะท้อนแสงให้เหมาะสมกับตำแหน่งดวงอาทิตย์ และการวัดอุณหภูมิภายในเตาในเวลาต่างๆ โครงงานนี้จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการถ่ายโอนความร้อน การนำความร้อน และความสำคัญของพลังงานทดแทน

โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องที่ 5 การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการหายใจของมนุษย์
การศึกษาระบบหายใจของมนุษย์เป็นโครงงานที่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจการทำงานของอวัยวะในร่างกาย นักเรียนสามารถศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่ออัตราการหายใจ เช่น การออกกำลังกาย อุณหภูมิของอากาศ อารมณ์ และการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

การทดลองจะเริ่มจากการวัดอัตราการหายใจในสภาวะปกติ จากนั้นให้อาสาสมัครทำกิจกรรมต่างๆ แล้ววัดอัตราการหายใจใหม่ เช่น วิ่งขึ้นลงบันได ดื่มน้ำร้อน นั่งพักผ่อน หรือฟังเพลงที่ชื่นชอบ นักเรียนจะต้องบันทึกข้อมูลอย่างละเอียดและหาค่าเฉลี่ยจากอาสาสมัครหลายคน

ผลการศึกษาจะแสดงให้เห็นว่าร่างกายมีกลไกการปรับตัวเมื่อต้องการออกซิเจนมากขึ้น การออกกำลังกายจะทำให้หายใจเร็วขึ้น ส่วนการพักผ่อนจะทำให้หายใจช้าลง โครงงานนี้จะช่วยให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพระบบหายใจ

โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องที่ 6 การสร้างแบตเตอรี่จากผลไม้และผัก
การสร้างแบตเตอรี่จากวัสดุธรรมชาติเป็นโครงงานที่น่าสนใจที่แสดงให้เห็นหลักการพื้นฐานของการผลิตกระแสไฟฟ้า นักเรียนสามารถใช้ผลไม้และผักที่มีกรดสูง เช่น มะนาว ส้ม มะเขือเทศ หรือมันฝรั่ง มาทำเป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้า

การทำแบตเตอรี่ต้องใช้แผ่นโลหะสองชนิดที่ต่างกัน เช่น สังกะสีและทองแดง หรือเหล็กกล้าไร้สนิมและอลูมิเนียม แทงลงไปในผลไม้หรือผักที่เลือกไว้ จากนั้นต่อสายไฟเข้ากับหลอด LED เพื่อทดสอบว่าสามารถจ่ายไฟฟ้าได้หรือไม่

นักเรียนสามารถทดสอบเปรียบเทียบแรงดันไฟฟ้าที่ได้จากผลไม้และผักชนิดต่างๆ การเชื่อมต่อแบตเตอรี่หลายก้อนแบบอนุกรมและแบบขนาน และการศึกษาเกี่ยวกับการกัดกร่อนของแผ่นโลหะเมื่อเวลาผ่านไป โครงงานนี้จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักการเคมีไฟฟ้าและความสำคัญของพลังงานทดแทน

โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องที่ 7 การศึกษาผลของเสียงต่อการเจริญเติบโตของพืช
การศึกษาผลกระทบของเสียงต่อพืชเป็นโครงงานที่แปลกใหม่และน่าสนใจ งานวิจัยหลายชิ้นได้แสดงให้เห็นว่าเสียงสามารถมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชได้ นักเรียนสามารถศึกษาผลของเสียงดนตรี เสียงคลื่นความถี่ต่างๆ หรือเสียงรบกวนต่อการเจริญเติบโตของต้นกล้า

การทดลองจะแบ่งต้นกล้าออกเป็นกลุ่มต่างๆ กลุ่มควบคุมจะอยู่ในสภาพแวดล้อมเงียบ ส่วนกลุ่มทดลองจะได้รับเสียงชนิดต่างๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน เช่น เสียงดนตรีคลาสสิก เสียงแจ๊ส เสียงร็อค หรือเสียงความถี่สูง นักเรียนจะต้องบันทึกความสูง น้ำหนัก และลักษณะของต้นพืชเป็นระยะ

ผลการศึกษาอาจแสดงให้เห็นว่าเสียงบางประเภทสามารถช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชได้ ในขณะที่เสียงบางประเภทอาจมีผลในทางตรงกันข้าม โครงงานนี้จะเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับนักเรียนเกี่ยวกับความซับซ้อนของธรรมชาติและความเป็นไปได้ที่ยังไม่เคยคิดมาก่อน

โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องที่ 8 การทำระบบกรองน้ำด้วยวัสดุธรรมชาติ
การสร้างระบบกรองน้ำด้วยวัสดุที่หาได้ง่ายเป็นโครงงานที่มีประโยชน์ต่อชุมชน นักเรียนสามารถใช้วัสดุต่างๆ เช่น ทราย กรวด ถ่านชาร์โคล ผ้า และกะลามะพร้าว มาสร้างเป็นระบบกรองน้ำแบบหลายชั้น

ระบบกรองจะเริ่มจากการกรองสิ่งสกปรกขนาดใหญ่ด้วยผ้าหรือตะแกรง จากนั้นน้ำจะผ่านชั้นกรวดเพื่กกรองอนุภาคขนาดกลาง ชั้นทรายจะกรองอนุภาคขนาดเล็ก และชั้นถ่านจะช่วยดูดกลิ่นและสารเคมี นักเรียนจะต้องทดสอบประสิทธิภาพของระบบกรองด้วยการใช้น้ำที่เตรียมให้สกปรกแล้ววัดความใสและคุณภาพของน้ำก่อนและหลังการกรอง

โครงงานนี้สามารถขยายไปสู่การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวัสดุกรองชนิดต่างๆ การศึกษาอายุการใช้งานของระบบกรอง และการปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยการเพิ่มชั้นกรองพิเศษ ผลการศึกษาสามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาน้ำสะอาดในพื้นที่ห่างไกลได้

โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องที่ 9 การศึกษาผลของอุณหภูมิต่อการละลายของน้ำตาล
การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิและการละลายของสาร เป็นโครงงานพื้นฐานทางเคมีที่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจสมบัติของสารและการเปลี่ยนแปลงสถานะ นักเรียนจะใช้น้ำตาลทราย เกลือ หรือสารที่ละลายน้ำได้ง่าย มาทดสอบปริมาณที่สามารถละลายได้ในน้ำที่อุณหภูมิต่างๆ

การทดลองจะเริ่มจากการเตรียมน้ำที่อุณหภูมิต่างๆ เช่น 0 องศาเซลเซียส 25 องศาเซลเซียส 50 องศาเซลเซียส และ 100 องศาเซลเซียส จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำตาลลงไปทีละเล็กทีละน้อยจนกระทั่งไม่สามารถละลายได้อีก นักเรียนจะต้องบันทึกปริมาณน้ำตาลสูงสุดที่ละลายได้ในแต่ละอุณหภูมิ

ผลการทดลองจะแสดงให้เห็นเป็นกราฟเส้นตรงที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิและการละลาย นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดของสารละลายอิ่มตัว การตกผลึก และการประยุกต์ใช้หลักการนี้ในชีวิตประจำวัน เช่น การชงชาหรือกาแฟ

โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่องที่ 10 การสร้างเข็มทิศด้วยแม่เหล็ก
การสร้างเข็มทิศเป็นโครงงานที่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเรื่องแม่เหล็กโลกและสนามแม่เหล็ก นักเรียนสามารถใช้เข็มเย็บผ้า แม่เหล็กถาวร และภาชนะใส่น้ำ มาสร้างเข็มทิศง่ายๆ ที่สามารถใช้งานได้จริง

กระบวนการสร้างเข็มทิศเริ่มจากการถูเข็มด้วยแม่เหล็กไปในทิศทางเดียวหลายๆ ครั้งเพื่อทำให้เข็มกลายเป็นแม่เหล็กขนาดเล็ก จากนั้นนำเข็มมาติดกับชิ้นไม้หรือโฟมเล็กๆ แล้วลอยบนผิวน้ำ เข็มจะหันไปในทิศเหนือ-ใต้ตามสนามแม่เหล็กโลก

นักเรียนสามารถทดลองเปรียบเทียบความแข็งแรงของแม่เหล็กที่สร้างขึ้นด้วยการใช้แม่เหล็กชนิดต่างๆ การถูในจำนวนครั้งที่ต่างกัน และการทดสอบความคงทนของสมบัติแม่เหล็ก โครงงานนี้จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจเรื่องแม่เหล็กและการนำทางในธรรมชาติ

ตัวอย่างไฟล์

ขอบคุณแหล่งที่มา : การศึกษาไทย